วัน แชมเปียนชิพ (ONE) รวมทั้ง แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชัน เตรียมเฟ้นหาดาวดวงใหม่ ทัวร์นาเมนต์มวยไทย 3 รุ่น โดยจะเริ่มในกรกฎาคม 2565 ณ สนามมวยเวทีลุมพินี ผู้ชนะจะได้ทำสัญญาเป็นนักกีฬา ONE ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3.4 ล้านบาท
ความร่วมแรงร่วมมือระหว่าง ONE ซึ่งเป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กับ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชัน เพื่อสร้างสรรค์รายการสนับสนุนนักสู้รุ่นใหม่ก้าวสู่เวทีระดับโลก นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะเป็นการเปิดทางให้นักสู้ดาวรุ่งไทยได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพสู่ตลาดโลก ในชื่อรายการว่า “Road To ONE” ซึ่งก็คือ “เส้นทางสู่ วัน แชมเปียนชิพ” นั่นเอง
การจัดการแข่งขันนี้จะเป็นในรูปแบบทัวร์นาเมนต์มวยไทย มวยวันนี้ จำนวน 3 รุ่นน้ำหนัก ได้แก่ มวยไทยชาย 70 กก., มวยไทยชาย 61 กก. รวมทั้งมวยไทยหญิง 52 กก. จะมีนักมวยไทยเข้าแข่งขันจำนวน 8 คนในแต่ละรุ่น ซึ่งผู้ชนะคนสุดท้ายของแต่ละรุ่นน้ำหนัก จะได้เซ็นสัญญาเป็นนักกีฬา ONE อย่างเต็มระบบ
ดังนี้ Road To ONE ยังได้รับความร่วมมือจาก “ชุ้น เกียรติเพชร” โปรโมเตอร์ศึกเกียรติเพชร เข้ามาช่วยดูแลคัดสรรตัวนักกีฬาและก็การประกบคู่มวยที่จะเข้าแข่งขันพร้อมกันไปกับทีมแฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โดยใช้สนามมวยเวทีลุมพินี หนึ่งในสนามมวยมาตรฐานและก็เก่าแก่ของประเทศไทยเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน ซึ่งตารางนัดแรกจะมีขึ้นภายในกรกฎาคม 2565
“ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ประธานและซีอีโอของ วัน แชมเปียนชิพ กล่าวว่า “ผมรู้จัก เปรม บุษราบวรวงษ์ ในฐานะเพื่อนรวมทั้งพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจมาอย่างยาวนาน ผมชื่นชมวิสัยทัศน์ของเขาที่มีต่อ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชัน คุณพ่อของเขา เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของประวัติศาสตร์แวดวงมวยไทย ผมจึงรู้สึกชื่นชมและก็ยินดีด้วยใจจริง ทีมงานรวมทั้งผมเองรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชัน ภายใต้ความร่วมมือของ Road To ONE ที่มาพร้อมกับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับนักกีฬา ที่จะได้เซ็นสัญญามูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้วก็แข่งขันในรายการ ONE ทั้งนี้ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชัน ถือเป็นอนาคตของกีฬาต่อสู้ในประเทศไทย”
“เปรม บุษราบวรวงษ์” โปรโมเตอร์ของ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชัน กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ ONE และก็ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชัน ได้จับมือเป็นพันธมิตร เพื่อสร้างเส้นทางให้นักกีฬาได้รับสัญญาแข่งขันใน ONE ซึ่ง ONE ถือเป็นองค์กรการต่อสู้ที่สุดยอดที่สุดในโลก และก็เรารู้ว่าที่นั่นเต็มไปด้วยนักสู้มากความสามารถ
ทั้งการจัดรุ่นน้ำหนักยังเอื้อต่อการพัฒนาสำหรับนักกีฬาชาวไทยและก็ต่างชาติที่อยู่ในสังกัดของเรา เราต้องการสร้างนักสู้หน้าใหม่ที่ตั้งใจจะเดินตามรอยนักสู้ชั้นนำของประเทศอย่าง แสตมป์ ยอดแสนไกล แล้วก็ รถถัง ดังนั้น เราจึงเปิดรับนักกีฬาจากทุกค่ายในประเทศไทยที่มีศักยภาพสำหรับการส่งนักกีฬาที่เก่งที่สุดเข้าร่วมแข่งใน Road To ONE”